เทียบชัด ๆ ก่อนตัดสินใจซื้อ เลื่อยยนต์ หรือ เลื่อยโซ่ไร้สาย
เทียบชัด ๆ ก่อนตัดสินใจซื้อ เลื่อยยนต์ VS เลื่อยโซ่ไร้สาย
หลายท่านกำลังมองหาซื้อเลื่อยอยู่ว่าควรจะเลือกเลื่อยยนต์ หรือเลื่อยโซ่ไร้สายดีถึงจะเหมาะสมกับลักษณะการใช้งานของท่าน แล้วเลื่อย 2 แบบนี้มันต่างกันยังไงบ้าง ทั้งด้านน้ำหนัก การสตาร์ทเครื่อง ความปลอดภัย และการบำรุงรักษา โดยที่เราจะใช้ เลื่อยโซ่ไร้สาย แบรนด์ MASARU รุ่น SCS-430 ลองเทียบกับเลื่อยยนต์ตามท้องตลาดในราคาที่ใกล้เคียงกัน เป็นตัวอย่างเพื่อให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
เลื่อยยนต์ และ เลื่อยโซ่ไร้สายคืออะไร
สิ่งแรกที่เราต้องเข้าใจกันก่อนว่าเลื่อย 2 แบบนี้มันทำงานต่างกันยังไงบ้าง
- เลื่อยยนต์ คือ เลื่อยที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงอย่าง น้ำมันเบนซินหรือแก๊สโซฮอล์ผสมกับน้ำมันหล่อลื่นเป็นพลังงานทำให้โซ่หมุน
- เลื่อยโซ่ไร้สาย คือ เลื่อยที่ใช้พลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ทำให้โซ่หมุน
น้ำหนัก
- เลื่อยยนต์ จะมีน้ำหนักประมาณ 4 - 6 กิโลกรัม รวมกับน้ำมันเชื้อเพลิงและน้ำมันหล่อโซ่อีกประมาณ 0.8 กิโลกรัม รวมน้ำหนักกันแล้วก็ประมาณ 5 - 7 กิโลกรัม หรืออาจจะมากกว่านี้ในบางรุ่น
- เลื่อยโซ่ไร้สาย รุ่น SCS-430 จะมีน้ำหนักตัวเครื่องอยู่ที่ 2.4 กิโลกรัม และแบตเตอรี่ อีกประมาณ 0.6 กิโลกรัม รวมแล้วจะหนักแค่ 3 กิโลกรัม
พอลองเปรียบเทียบกันดูแล้วเห็นได้ชัดว่า เลื่อยโซ่ไร้สายจะมีน้ำหนักน้อยกว่า ทำให้มีความคล่องแคล่ว และความแม่นยำในการใช้งานที่มากกว่า ความปวดเมื่อยในระหว่างการใช้งานที่น้อยกว่า และความปลอดภัยในการใช้งานที่มากกว่า
การสตาร์ทเครื่อง
- เลื่อยยนต์ เปิดเครื่องด้วยการมือดึงสตาร์ท
- เลื่อยโซ่ไร้สาย รุ่น SCS-430 ดูจะได้เปรียบมากกว่า ด้วยการปลดปุ่มเซฟตี้ กดปุ่มสตาร์ทเครื่อง ทำให้เริ่มงานได้ทันที ท่านไม่ต้องเสียเวลาในการสตาร์ท
ระบบความปลอดภัย
ระบบความปลอดภัยแน่นอนว่าเลื่อยยนต์ และเลื่อยโซ่ไร้สายทั้ง 2 ระบบมีความปลอดภัยตามมาตรฐาน ดังนี้
- ปุ่มล็อก (ปุ่มเซฟตี้) เป็นปุ่มที่มักจะอยู่ใกล้ไกเลื่อย มีการป้องกันผู้ใช้งานตอนเรื่มต้นการใช้งาน และป้องกันการเปิดเครื่องเองโดยไม่ได้ตั้งใจ
- คันเบรคโซ่ เป็นจุดป้องเมื่อมีแรงดีดกลับหรือการเคลื่อนที่ผิดปกติเครื่องจะหยุดการทำงานทันที
ระบบที่เลื่อยโซ่ไร้สาย มีแตกต่างจากเลื่อยยนต์ คือ
- ระบบหยุดอัตโนมัติ (Auto Lock) เป็นระบบที่จะหยุดโซ่ทันทีเมื่อเราปล่อยไกเครื่อง ช่วยป้องกันอุบัติเหตุจากโซ่ที่ยังหมุนต่อ และเพิ่มความมั่นใจให้ผู้ใช้งานแม้ในขณะทำงานที่ต้องการความรวดเร็ว
การบำรุงรักษา
ไม่ว่าท่านจะเลือกใช้เลื่อยยนต์ หรือเลื่อยโซ่ไร้สาย สิ่งที่เลี่ยงไม่ได้เลยคือการดูแลรักษาอุปกรณ์ เพื่อให้ใช้งานไปได้นาน ๆ เรามาดูกันดีกว่าว่าเลื่อยแต่ละแบบต้องดูแลยังไงบ้าง
สิ่งที่เลื่อยยนต์ และเลื่อยโซ่ไร้สายต้องดูแลเหมือนกัน มีดังนี้
- การเติมน้ำมันหล่อลื่นโซ่ อยู่ตลอดเพื่อให้ตัวโซ่หมุนได้อย่างลื่นไหลและลดการสึกเหร่อของบาร์โซ่ และโซ่
- การทำความสะอาด และลับคมโซ่อย่างสม่ำเสมอ ไม่อย่างนั้นการตัดไม้ในครั้งต่อไปก็จะทำได้ยากขึ้นเรื่อย ๆ หรืออาจจะตัดไม่เข้าเลย
- การทาน้ำมันกันสนิม เพื่อยืดอายุการใช้งาน
สิ่งที่ต้องดูแลเพิ่มเติมของเลื่อยยนต์ และเลื่อยโซ่ไร้สาย มีดังนี้
เลื่อยยนต์ เราก็ทราบแล้วว่ามันใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเป็นพลังงาน ก็จะมีการดูแลแตกต่างจากเลื่อยโซไร้สาย ดังนี้
- หัวเทียนเครื่อง ที่เป็นตัวจุดเครื่องให้ติด หากตัวหัวเทียนเสียหรือชำรุดก็ไม่สามารถใช้งานได้
- ตัวกรองอากาศ ราต้องคอยเป่าฝุ่นออกจากตัวกรอง เพื่อให้ตัวเครื่องสามารถส่งอากาศไปที่หัวฉีดได้
เลื่อยโซ่ไร้สาย ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าในการขับเคลื่อนโซ่ให้หมุน ก็จะมีให้การดูแลโดยเฉพาะ คือ
-
เก็บรักษา และป้องกันแบตเตอรี่จากความชื้น หากมีความชื้นอาจจะทำให้แบตเตอรี่ลัดวงจรจนทำให้เครื่องเสียหายได้
สรุปว่าเลื่อยโซ่ไร้สายดีกว่ายังไง
ถ้าเปรียบเทียบโดยรวมแล้ว เลื่อยโซ่ไร้สาย จะมีความสะดวกในการใช้งาน น้ำหนัก การสตาร์ทเครื่อง การควบคุม การดูแลรักษา และความปลอดภัยที่มากกว่าเลื่อยยนต์
ถ้าคุณต้องการเครื่องมือตัดแต่งกิ่งไม้ ตัดไม้ขนาดเล็ก-กลาง ใช้งานง่าย ปลอดภัย พกพาสะดวก และไม่ยุ่งยากในการบำรุงรักษา เลื่อยโซ่ไร้สาย รุ่น SCS-430 คือ คำตอบที่ใช่ แต่ถ้าคุณต้องการใช้งานหนัก ๆ เช่น งานป่าไม้ หรือตัดไม้ขนาดใหญ่ที่ต้องใช้กำลังสูง เลื่อยยนต์ก็ยังคงเหมาะสมกว่า
ดังนั้น หากคุณเป็นคนทำสวนทั่วไป เจ้าของบ้าน หรือสายงาน DIY ที่ต้องการความสะดวกสบาย ประหยัดเวลา และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การเลือก เลื่อยโซ่ไร้สาย จะช่วยให้งานง่ายขึ้น และคุ้มค่ากว่าที่คิด!